เอ่ยถึง “สุกี้ยากี้” หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า “สุกี้” ขึ้นมาเชื่อว่ามิตรรักนักกินทั้งหลายคงรู้จักกันดี และเคยกินกันทั้งนั้น ซึ่งสุกี้เป็นอาหารที่มีน้ำซุป แล้วมีพวกเนื้อสัตว์ หรือเครื่องเคราต่างๆ และผักหลากหลายให้ใส่ลงไปในน้ำซุป มีน้ำจิ้มรสเด็ดให้กินคู่กัน เป็นอาหารร้อนๆ ที่กินแล้วอิ่มอุ่นท้องดียิ่งนัก
มื้อนี้ “ตระเวนกิน” เลยอยากจะขอชวนมิตรรักนักกินที่ชื่นชอบกินสุกี้ มาอิ่มอร่อยกับสุกี้โบราณเลิศรสกันที่ร้าน “เรือนหยก” สาขาบางบอน 3 ที่นี่โดดเด่นเรื่องสุกี้โบราณ เป็นสุกี้สไตล์จีนไหหลำ ที่มีเต้าหู้ยี้เป็นส่วนผสมหลัก โดยผสมอยู่ในน้ำซุป เนื้อสัตว์ที่เสิร์ฟก็จะถูกหมักด้วยน้ำซอสเต้าหู้ยี้ และน้ำจิ้มสุกี้ก็เป็นสูตรแบบเต้าหู้ยี้ แล้วนอกจากสุกี้โบราณที่เป็นเมนูเด่นชูโรงแล้ว ทางร้านยังมีอาหารจีนกวางตุ้งแบบดั้งเดิมให้ได้ลิ้มรส รวมถึงอาหารไทยพื้นบ้านที่เป็นสูตรเฉพาะที่ทางร้านได้รังสรรค์ขึ้นมาโดยเฉพาะ และให้ความใส่ใจในเรื่องของการคัดสรรแต่วัตถุดิบที่มีคุณภาพ มีความสดใหม่ เพื่อนำมาปรุงแต่งเป็นเมนูอาหารรสเลิศมากมายที่ชวนชิม
แน่นอนว่าเมื่อมาถึงร้านแล้วก็ต้องไม่พลาดที่จะสั่งสุกี้โบราณของที่นี่มากินกัน โดยสุกี้ของที่นี่มีทั้งแบบจัดเป็นชุดหลากหลายชุดให้เลือกสั่งมากินแบบอิ่มท้อง และก็ยังมีแบบอาลาคาร์ต ให้เลือกสั่งมาเป็นจานๆ ตามแต่ใจชอบกิน ซึ่งในมื้อนี้เราขอแนะนำสุกี้แบบชุดเด่นๆ ที่ชวนลองลิ้มก็มี ชุดหมูรวมมิตร (234 บาท) ในชุดมีเนื้อสัตว์มากหลาย มีทั้งเนื้อหมูสันนอกหมักเต้าหู้ยี้ ตับหมู หมึกสด หมึกกรอบ ตอกไข่ไก่ใส่มาด้วย มาพร้อมกับผักสดรวมหลายอย่าง และน้ำซุปไก่ที่มีส่วนผสมของเต้าหู้ยี้สูตรพิเศษของทางร้าน การกินสุกี้โบราณให้อร่อยลิ้น แนะนำว่าให้คลุกเคล้าไข่ไก่เข้ากับเครื่องเนื้อสัตว์ให้เข้ากัน แล้วเทลงหม้อน้ำซุปร้อนๆ ใส่ผักต่างๆ ลงไป รอจนสุกเดือด ก็ตักมาลิ้มรสกันได้เลย พร้อมกับราดน้ำจิ้มเต้าหู้ยี้สูตรเฉพาะที่ทางร้านปรุงรสชาติให้ถูกปากคนไทยมากขึ้น มีรสชาติเปรี้ยว เค็ม หวาน รสแซ่บจัดจ้านถูกลิ้น กินสุกี้แล้วโดนใจปากมากๆ น้ำซุปซดร้อนๆ หอมกลิ่นเต้าหู้ยี้อ่อนๆ ชุ่มชื่นคล่องคอ ส่วนเนื้อสัตว์ต่างๆ ก็ชิ้นใหญ่ เคี้ยวเนื้อหมูนุ่มๆ เต็มปากเต็มคำ
ชุดเนื้อกวาง (349 บาท) เป็นเมนูสุกี้ที่ไม่มีร้านไหนเหมือน เพราะทางร้านนำเนื้อกวางส่วนที่คัดสรรมาเป็นพิเศษ ที่มีแต่เนื้อนุ่มๆ นำมาหมักกับเต้าหู้ยี้ ใส่ไข่ไก่ตอกมาให้ด้วย เวลากินก็คลุกเคล้าไข่ไก่ให้เข้ากับเนื้อกวาง แล้วเทลงหม้อน้ำซุป (หรือจะลวกตามแต่ต้องการก็ได้) เนื้อกวางสุกได้ที่ เนื้อจะมีความนุ่มเคี้ยวหนึบปาก กินกับน้ำจิ้มสุกี้เต้าหู้ยี้หอมๆ รสจัดจ้านโดนใจ
แล้วอย่างที่บอกที่นี่ไม่ได้มีดีแค่สุกี้ ยังมีอาหารอื่นๆ ที่ชวนกินอีกมาก อย่างเมนูเด่นไม่แพ้สุกี้ที่แนะนำว่าควรสั่งมาชิมก็คือ หมูสะเต๊ะ (ไม้ละ 10 บาท) ทางร้านคัดสรรเนื้อหมูส่วนสันนอกมาหมักกับเครื่องสะเต๊ะ เครื่องผงกะหรี่ หมักนานข้ามวันก่อนจะนำมาเสียบไม้ย่าง และเวลาย่างก็จะทาน้ำกะทิปรุงรสไปด้วย ทำให้ได้หมูสะเต๊ะหอมๆ เนื้อหมูนิ่มเคี้ยวนุ่มฉ่ำปาก จิ้มกินคู่กับน้ำจิ้มหมูสะเต๊ะรสเข้มข้นกลมกล่อมปาก แกล้มด้วยอาจาด กินหมูสะเต๊ะเพลินปากหมดไปหลายไม้
เป็ดปักกิ่ง (499 บาท) เป็นอีกหนึ่งเมนูเด็ดที่ชวนลิ้มรส เป็ดปักกิ่งของที่นี่มีความโดดเด่นตรงที่หนังเป็ดบางกรอบ มีความหอม เพราะเป็ดปักกิ่งผ่านกระบวนการปรุงที่พิถีพิถันตามสูตรเฉพาะของทางร้าน มาพร้อมแผ่นแป้งที่ทำเองมีความคล้ายแป้งโรตีมีความฉ่ำ ไม่กระด้าง นึ่งมาร้อนๆ ให้นำมาห่อกับหนังเป็ด ใส่แตงกวา ต้นหอม แล้วราดด้วยน้ำจิ้มรสเด็ดที่ทางร้านทำเองตามสูตรเฉพาะ ห่อม้วนแล้วส่งเข้าปาก เคี้ยวกร้วมคำโตสัมผัสได้ถึงแผ่นแป้งที่นุ่มฉ่ำกินเข้ากันกับหนังเป็ดกรอบกรุบ ผสานด้วยรสชาติน้ำจิ้มรสกลมกล่อมถูกลิ้น ส่วนเนื้อเป็ดที่เหลือสามารถนำไปทำเป็นเมนูได้ 2 อย่าง (ราคาเมนูละ 150 บาท) สามารถทำเป็นเมี่ยง ลาบ ราดหน้า ผัดพริกไทยดำ และทอดกระเทียมพริกไทย อ้อ!! สำหรับเมนูเป็ดปักกิ่งนี้ หากใครมากินที่ร้านแล้วบอกว่าอ่านมาจากเว็บไซด์ผู้จัดการ ทางร้านยินดีให้นำเนื้อเป็ดทำเป็นเมนูทอดกระเทียมพริกไทยได้ฟรี ตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 ส.ค. 2563
เมนูถัดมาชวนกิน โหงวก๊วยรังเผือก (200 บาท) มีเกาลัด แปะก้วย พุทราเชื่อม แห้ว เม็ดมะม่วงหิมพานต์ และกุ้ง นำมาผัดรวมกันปรุงรสสไตล์จีนๆ ใส่มาในรังเผือกทอดกรอบ กินแล้วเครื่องเคราต่างๆ กินแล้วถูกปากอออกรสชาติออกเค็มๆ หวานๆ ส่วนรังเผือกกรอบกรุบเคี้ยวเพลินปาก
ต่อด้วยเมนูนี้ ขาห่านอบหมี่ (440 บาท) มีขาห่านที่ตุ๋นกับเครื่องยาจีน 4-5 ชม. ปรุงรสด้วยเครื่องเทศ และใส่เห็ดหอม แล้วก็มีบะหมี่ไข่ที่คัดสรรมาเป็นพิเศษ นำมาอบกับขาห่านราดด้วยน้ำซอสสูตรพิเศษ อบเคี่ยวนานกว่า 20 นาทีจนน้ำซอสแห้ง เสิร์ฟมาแบบหม้ออบร้อนๆ กินแล้วถูกปากยิ่งนัก ตรงที่ขาห่านนุ่มเนื้อหนังร่อนรสชาติดี กินเข้ากับบะหมี่ไข่ที่เหนียวนุ่มชุ่มน้ำซอสรสกลมกล่อม
จากนั้นมาชิม การอจี้ไส้หมูแดง (139 บาท) ที่ทางร้านคิดค้นสูตรขึ้นมาเอง โดยนำเอาเนื้อหมูแดงที่ทำเองตามสูตรเด็ด มาสอดไส้ในแป้งการอจี้ที่ทำเองเช่นกัน แล้วราดด้วยซอสราคาเมลสไตล์จีน ลิ้มรสแล้วถูกปากเคี้ยวแป้งกรอบนอกนุ่มใน ฉ่ำปากด้วยหมูแดงเคี้ยวนุ่มรสชาติดี ผสานกับรสชาติซอสคาราเมลออกเค็มๆ หวานๆ ลงตัวเข้ากันดีแท้
ส่งท้ายด้วยเมนู ออส่วนกรอบ (150 บาท) ทางร้านคัดสรรหอยนางรมสดๆ ตัวโตกำลังดี นำมาทำเป็นออส่วนกรอบที่แป้งทำเองตามสูตรเด็ดของทางร้าน ออส่วนกรอบนี้เด็ดตรงที่แป้งออส่วนข้างหน้ามีความกรอบกรุบ ส่วนข้างในมีความนุ่มยืด มีหอยนางรมเนื้อเด้งสดหวาน กินคู่กับซอสพริกเพิ่มรสชาติอร่อยโดนใจ
แม้ว่าจะแนะนำเมนูสุกี้และอาหารจานเด็ดอื่นๆ มาเยอะแล้ว แต่ก็ยังมีเมนูอื่นๆ ที่ชวนให้สั่งมาลิ้มลองกันอีก อาทิ ราดหน้าทะเล (100 บาท 200 บาท 300 บาท) เป็ดพะโล้ (130 บาท 220 บาท 440 บาท) หอยเชลล์ผัดซอสเอ็กซ์โอ (400 บาท) พุทราจีนทอด (100 บาท 200 บาท 300 บาท) และอีกหลากหลายอาหารจีนกับอาหารไทยรสเลิศ ที่ชวนให้มากินมาอิ่มแน่นท้องกันที่ร้าน “เรือนหยก”
“เรือนหยก” ตั้งอยู่ที่ 78 ถนนบางนอน 3 แขวงบางบอนเหนือ เขตบางบอน กทม. เปิดทุกวัน เวลา 11.00 – 22.00 น. โทร. 0-2116-9228 แล้วยังมีอีก 2 สาขา คือที่สาขาราษฎร์บูรณะ โทร. 0-2871-4587 และสาขาสุขสวัสดิ์ 30 โทร. 0-2818-3833 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.reaunyoksukiyaki.com, www.facebook.com/reaunyok
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR
"อาหาร" - Google News
August 05, 2020 at 10:51AM
https://ift.tt/3ic1vb4
“เรือนหยก” เลิศรสสุกี้โบราณสไตล์จีนไหหลำ อิ่มหนำอาหารจีน-ไทย - ผู้จัดการออนไลน์
"อาหาร" - Google News
https://ift.tt/3bODzqM
Mesir News Info
Israel News info
Taiwan News Info
Vietnam News and Info
Japan News and Info Update
https://ift.tt/35PjoHG
Bagikan Berita Ini
0 Response to "“เรือนหยก” เลิศรสสุกี้โบราณสไตล์จีนไหหลำ อิ่มหนำอาหารจีน-ไทย - ผู้จัดการออนไลน์"
Post a Comment