Search

ยืนยันต้องฟ้องศาล จับลูกเขยปลูกกัญชา อ้างต้มให้พ่อตากินรักษาโรค - ไทยรัฐ

hota.prelol.com

หลายภาคส่วน ติดตามข้อเท็จจริง กรณีจับลูกเขยปลูกกัญชา 2 ต้น ไว้ให้พ่อตาต้มกินรักษาโรคที่ร้อยเอ็ด ตำรวจยืนยันทำตามกฎหมาย ไม่สามารถละเว้นได้ เผยตอนถูกจับสารภาพ เอาไว้ใส่ต้มไก่ ไม่ได้บอกว่าใช้รักษาพ่อตา 

กรณีที่เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม นายพิริยะ อรุณดี ปลัดอำเภอ หัวหน้าฝ่ายความมั่นคง อ.โพธิ์ชัย จ.ร้อยเอ็ด พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ได้รับการร้องเรียนว่า มีการลักลอบปลูกต้นกัญชาอยู่ที่บ้านเลขที่ 111 หมู่ 1 บ้านเชียงใหม่ ต.เชียงใหม่ อ.โพธิ์ชัย จึงออกไปตรวจสอบพบว่ามีต้นกัญชาจริงจำนวน 2 ต้น สูงต้นละประมาณ 2 เมตรปลูกไว้ในสวนครัวหน้าบ้าน จึงจับกุม นายไพโรจน์ ทิพย์บุญชู อายุ 39 ปี ซึ่งเป็นบุตรเขยของ นายทองบ่อ กมลวิบูลย์ อายุ 79 ปี อาศัยในบ้านดังกล่าว นายไพโรจน์รับว่าเป็นคนปลูกและดูแลต้นกัญชา 2 ต้น ที่ปลูกไว้ เพื่อการต้มน้ำใช้เป็นยารักษาพ่อตา คือนายทองบ่อ กมลวิบูลย์ อายุ 79 ปี ซึ่งป่วยด้วยโรคไต ตับ เบาหวาน ความดันสูงที่ป่วยติดเตียงมาเกือบ 10 ปี แต่ตำรวจและฝ่ายปกครองได้จับกุมนายไพโรจน์ ทิพย์บุญชู พร้อมถอนต้นกัญชาของกลาง 2 ต้น ส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดี ในข้อหาลักลอบปลูกกัญชาผิดกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ประเภท 5) พ.ศ. 2522

ล่าสุด วันที่ 25 ส.ค. ดร.พีระพงษ์ ไพรินทร์ หัวหน้าพรรคไทยรักกัน พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชนะ สุวรรณโกมล นายนิสิต ตั้งวัชระ นายพินิจ สุพรรณนนท์ กรรมการบริหารพรรค และนางสุภาพร คำปัจฉิม เจ้าหน้าที่แพทย์แผนไทย ร่วมกันเดินทางไปที่ สภ.เชียงใหม่ อ.โพธิ์ชัย เข้าพบ พ.ต.ท.นพราช จันปาง สวส.สภ.เชียงใหม่ เพื่อติดตามข้อเท็จจริงของการจับกุมผู้ต้องหาดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่า น่าจะพิจารณาในข้อเท็จจริงปลูกกัญชา และทบทวนการบังคับใช้กฎหมาย ในกรณีที่เป้าหมายของการปลูกกัญชา เป็นการปลูกที่ใช้เพื่อการรักษาโรค ไม่ได้มีไว้เสพหรือมีไว้ขาย การจับกุม น่าจะสอบสวนพิจารณาถึงมูลเหตุที่ชัดเจน

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ กล่าวว่า การจับกุมดังกล่าวเป็นไปตามกฎหมาย หลังจากมีการร้องขอจากฝ่ายปกครองให้เข้าร่วมจับกุม จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปร่วมตรวจสอบจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางมาส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี ซึ่งทุกอย่างดำเนินการไปตามอำนาจหน้าที่และตามระเบียบขั้นตอนของกฎหมาย ในปากคำผู้ต้องหา ก็ให้การว่าเป็นคนปลูกกัญชา และการให้ปากคำก็ไม่ได้บอกว่า เพื่อต้มน้ำกินรักษาโรคของพ่อตา แต่บอกว่าปลูกไว้เพื่อต้มไก่กิน จึงควบคุมตัวไว้ดำเนินคดี และเตรียมสำนวนส่งฟ้องศาล ซึ่งญาติได้นำเงินมายื่นประกันตัว จึงได้ปล่อยตัวชั่วคราว พร้อมรอสรุปสำนวนการสอบสวน จากนั้นจะเรียกตัวมา เพื่อนำตัวส่งฟ้องศาล ตัดสินพิจารณาโทษต่อไป

"การที่มีการร้องว่า การปลูกกัญชาดังกล่าว ด้วยเหตุผลอื่นอันเชื่อได้ว่า ไม่ได้ตั้งใจกระทำความผิดในด้านการจำหน่ายและการเสพ ก็สามารถให้คนที่สามารถให้ปากคำเป็นอย่างอื่น เช่นพ่อตา มาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนเพิ่มเติม ตามที่กล่าวอ้างว่าปลูกเพื่อต้มกินน้ำเพื่อรักษาโรค ก็จะสอบปากคำเพิ่มเติม ลงประกอบในสำนวนก่อนส่งฟ้องศาลได้ ส่วนกรณีที่จะมีโทษมีความผิดหรือไม่อย่างไรคงต้องเป็นดุลยพินิจของศาลจะพิจารณาตัดสินความผิดต่อไป" เจ้าหน้าที่ตำรวจ ระบุ

จากนั้นคณะที่มาได้เดินทางเข้าไปยังที่ว่าการอำเภอ เข้าพบนายชินกร แก่นคง นายอำเภอโพธิ์ชัย เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงถึงมูลเหตุของการจับกุมผู้ต้องหาพร้อมต้นกัญชา 2 ต้น ที่ผู้ต้องหา อ้างว่าปลูกเพื่อการรักษาโรค ซึ่งนายอำเภอกล่าวว่า ทุกอย่างเป็นการดำเนินการตามหน้าที่ ภายใต้นโยบายปราบปรามยาเสพติด “ยุทธการสาเกตนคร” ตามหนังสือสั่งการ ของ นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด  เป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามอำนาจของพนักงาน และฝ่ายปกครอง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การดำเนินการจับกุม เนื่องจากได้มีหนังสือร้องเรียนจากประชาชนในหมู่บ้านเดียวกันกับผู้ต้องหา ทำหนังสือร้องเรียนมา จึงออกไปตรวจสอบจับกุม ซึ่งหากไม่ทำตามหน้าที่หรือจับแล้วปล่อย คงจะมีความผิดในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งหลังจากการจับกุมผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนแล้ว ถือว่าพ้นหน้าที่ เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนที่จะดำเนินการสอบสวนไต่สวนหาข้อเท็จจริง ก่อนส่งฟ้องศาล ต่อไป

นอกจากนั้น ทางคณะยังได้เดินทางไปยังบ้านของผู้ต้องหา ที่อยู่ในระหว่างการประกันตัวชั้นพนักงานสอบสวน เพื่อทราบข้อเท็จจริงจากนายไพโรจน์ ทิพย์บุญชู อายุ 39 ปี ซึ่งเป็นบุตรเขยและนายทองบ่อ กมลวิบูลย์ อายุ 79 ปี  ซึ่งรับว่าเป็นผู้ปลูกกัญชา 2 ต้นจริง แต่เป้าหมายคือปลูกเพื่อต้มกินน้ำกัญชารักษาโรค ซึ่งนายทองบ่อยืนยันว่า ปลูกเพื่อเก็บใบสดมาต้มน้ำกินจริง กินมาเป็นเวลา 3 เดือนเศษแล้ว และตลอดระยะเวลาที่กินมาได้ประมาณ 2 เดือน จากเดิมที่เป็นคนป่วยนอนติดเตียงเดินเหินไปไหนไม่ได้ เกือบจะ 10 ปี กลับสามารถลุกเดินไปไหนมาไหน และทำงานต่างๆ รวมทั้งช่วยเหลือตัวเองได้ โดยไม่เป็นภาระให้กับทุกคนในครอบครัว จึงหาต้นกัญชามาปลูกเพื่อต้มน้ำกินจนกระทั่งถูกจับดังกล่าว

ด้านดร.พีระพงษ์ ไพรินทร์ หัวหน้าพรรคไทยรักกัน กล่าวว่า พรรคมีความเห็นด้วยกับการนำกัญชามารักษาโรค และอาการป่วย เช่นในกรณีของนายทองบ่อ กมลวิบูลย์ ที่ใช้กัญชารักษาโรค ซึ่งตามแนวทางและนโยบายของพรรค คือนโยบาย เสรีกัญชาทางการแพทย์ เป็นแนวคิดที่ต้องปลดกัญชาออกจากยาเสพติด ไม่เช่นนั้นแล้ว จะไม่มีทางที่ผู้ป่วยจะเข้าถึงการรักษาโดยเสรี ไม่มีทางที่แพทย์จำนวน 56,000 คน จะสั่งให้ใช้ยากัญชารักษาโรค แทนยาคีโม หรือยาที่ต้องซื้อมาเป็นจำนวนเงินหลายแสนล้านต่อปี ทั้งๆ ที่วิธีการต่างๆ ของโลกเปลี่ยนไป แต่การรักษาโรคยังคงอยู่ในลักษณะเดิมๆ ซึ่งหากกฎหมายไม่ปลดล็อกเรื่องกัญชาเสรี สิทธิเสรีภาพไม่เกิด ดังนั้น นโยบายเสรีกัญชาทางการแพทย์ จึงต้องการให้เปิดการค้าโดยเสรี โดยมีการกำหนดราคาควบคุมโดยภาครัฐ ควบคุมราคาให้ได้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยไม่ให้เอกชนเข้าไปดำเนินการ เอาประโยชน์ ไปเอาทรัพยากรที่มีมูลค่ามหาศาลยิ่งกว่าทองคำของประเทศไปเป็นของตัวเอง

อ่านเพิ่มเติม...

Let's block ads! (Why?)



"กิน" - Google News
August 25, 2020 at 09:39PM
https://ift.tt/2EDtCRF

ยืนยันต้องฟ้องศาล จับลูกเขยปลูกกัญชา อ้างต้มให้พ่อตากินรักษาโรค - ไทยรัฐ
"กิน" - Google News
https://ift.tt/2YKxNmY
Mesir News Info
Israel News info
Taiwan News Info
Vietnam News and Info
Japan News and Info Update
https://ift.tt/35PjoHG

Bagikan Berita Ini

0 Response to "ยืนยันต้องฟ้องศาล จับลูกเขยปลูกกัญชา อ้างต้มให้พ่อตากินรักษาโรค - ไทยรัฐ"

Post a Comment

Powered by Blogger.