ณมน จรุงกลิ่น นางแบบโฆษณาวันวานผู้รักในการทำอาหารเปิดบ้านต้อนรับนักชิมในสไตล์โฮม คุกกิ้ง สบายๆเป็นกันเองในรูปแบบ New Normal
มากเกินไปก็ไม่ดี
เคยเปิดร้านอาหาร Taproot ในซอยสุขุมวิท 26 ขนาด 50 ที่นั่ง เมื่อสิบกว่าปีที่แล้วมาก่อน คราวนี้ขอเปิดกิจการเล็กๆในรูปแบบโฮมคุกกิ้งที่สามารถจัดการทุกอย่างได้ด้วยตัวเอง
“ เข็ดไปหลายปี” ณมน จรุงกลิ่น อดีตนางแบบโฆษณาที่คุณอาจคุ้นหน้า เพราะเธอเป็นนางแบบให้สินค้าที่ใช้ในบ้านเป็นส่วนใหญ่ กล่าวยิ้มๆ
“ปี 2550 เปิดร้านชื่อ Taproot ตั้งชื่อตามสภาพแวดล้อมที่มีต้นไม้ใหญ่ สมัยก่อนคนทำงานออฟฟิศจะมาทานมื้อกลางวันที่ร้านเยอะมาก เราจัดเป็นชุดอาหารกลางวันราคาไม่ได้แพงมาก เราทำอาหารเองด้วยแล้วก็สอนลูกจ้างให้เป็นแม่ครัวด้วย ตอนนี้ไปเป็นเชฟอยู่ที่โรงแรมแล้ว
วันดีคืนดีแม่ครัวหาย คนล้างจานไม่มา ลูกค้ามื้อกลางวันเต็มจนล้น เรารู้สึกว่าทำไม่ไหวแล้ว เหนื่อย ไม่สนุก และเข็ด” เป็นบทเรียนที่จดจำ
น้อยแต่พอดี
เพราะเงินไม่สำคัญเท่าความสุข หลังจากหยุดพักไป 7 ปี ณมน กลับมาเปิดครัวต้อนรับแขกอีกครั้ง ในรูปแบบโฮมคุกกิ้ง รับเฉพาะแขกนัดหมายล่วงหน้า โดยสามารถเลือกเมนูอาหารไทยและฝรั่งได้ตามชอบ ค่าบริการคิดตามราคาอาหารที่สั่ง จะมากัน 2 คนก็ได้ หรือจะมาเป็นกลุ่มได้ไม่เกิน 15 คน
“มาเปิดเป็นโฮมคุกกิ้ง รูปแบบ Chef’s Table ปีนี้จะครบ 3 ปีแล้ว หยุดพักไปนาน เราเที่ยวเล่นอย่างเดียวไม่ได้นะ ถามตัวเองว่าทำอะไรแล้วสนุก ได้คำตอบว่าชอบทำอาหาร แต่เหนื่อยแบบเดิมไม่เอาแล้ว
ถ้าอย่างนั้นมาทำสไตล์โฮมคุกกิ้งละกัน ลงทุนไม่เยอะ ไม่ต้องพึ่งคนอื่น เราดูแลบริหารจัดการคนเดียวได้ส่วนเครื่องมือเครื่องใช้จากร้านเก่ายังอยู่ ไม่ว่าจะเป็นจานชามอุปกรณ์เครื่องครัวโต๊ะตู้ เรานำทุกอย่างออกมาจากห้องเก็บของแล้วหยิบขึ้นมาประกอบกัน”
แทบไม่ต้องซื้ออะไรเพิ่มเติมเลย เว้นแต่ต้องจ่ายค่าเช่าสถานที่เพียงอย่างเดียว
สบายๆเหมือนกินข้าวบ้านเพื่อน
เพราะหัวใจหลัก คือ เมนูอาหารสูตรของบ้านณมน ดังนั้น ณมน จึงตกแต่งห้องรับแขก ห้องรับประทานอาหารด้วยภาพวาดฝีมือตนเอง ตกแต่งด้วยดอกไม้ ไม่หรูหราแต่ให้ความรู้สึกสบาย โดยมีกติกาเบาๆคือเข้ามาแล้วไม่ต้องมีพิธีรีตอง
เครื่องดื่มอยู่ในตู้เย็น ชา กาแฟ สามารถหยิบจับชงเองได้ตามสะดวก เจ้าของบ้านอาจหายเข้าไปในครัวเพื่อปรุงอาหารบ้าง บริการอาจช้าบ้าง โปรดเข้าใจกัน
“เหมือนมากินข้าวบ้านเพื่อน เหมือนมาเยี่ยมบ้านพี่แล้วพี่เข้าครัวไปทำกับข้าวให้กินกัน ลูกค้าเขามาหาเรามันได้อารมณ์แบบนี้ เป็นการตลาดแบบปากต่อปาก พี่ไม่โฆษณา โพสต์เฟซบุ๊คน้อยมาก คนที่มาจะรู้แล้วว่าสไตล์เราเป็นแบบนี้”
รสชาติบ้านฉัน
อาหาร คือ ประสบการณ์ ณมน กล่าวว่าเมนูอาหารทั้งหมดนั้นเกิดจากการเรียนรู้และประสบการณ์ที่ผ่านมาของชีวิต
“เริ่มต้นจากครอบครัว คุณแม่ทำกับข้าวอร่อย เมื่อเห็นว่าเราสนใจท่านก็สอนให้พื้นฐานอาหารไทยจึงได้มาจากครอบครัว พอเราโตขึ้นมีโอกาสไปทานอาหารตามร้านต่างๆ ไปสรรหาของชิม สมัยก่อนไม่มี Google กินแล้วชอบเมนูไหน เราต้องไปค้นหนังสือตำราอาหาร ไปดูว่าเขาทำกันอย่างไร บางทีเมนูเดียวกัน 5-6 ตำราไม่เหมือนกันเลย แต่จะมีหลักๆคล้ายๆกันทำให้เราต้องไปปรับ ทดลอง จนได้เป็นสูตรของตัวเอง กว่าจะได้มาทำเสียไปเยอะเหมือนกัน” เจ้าของบ้านเล่าอย่างอารมณ์ดี
เมนูอาหารของณมน โฮมคุกกิ้ง จะแบ่งเป็นอาหารไทยและฝรั่ง มีให้เลือกตั้งแต่อาหารเรียกน้ำย่อยไปจนถึงอาหารจานหลัก
สำหรับเมนูอาหารไทย ส่วนมากจะเป็นสูตรของครอบครัว ได้แก่ แกงเขียวหวานเนื้อ เนื้อผัดยี่หร่า ขนมจีนน้ำยาปู แกงเหลืองแซลมอน และ พะโล้ไข่เค็ม เป็นต้น
“แกงเขียวหวานเนื้อ พี่ใช้เนื้อส่วนติดซี่โครง นำมาเคี่ยวตุ๋นจนน้ำซอสของพริกแกงซึมเข้าไปในเนื้อ น้ำแกงเขียวหวานของพี่จึงไม่ใช่แกงน้ำใส นอกจากเนื้อเปื่อยมากแล้ว เทคนิคของพี่ คือ เติมพริกแกงใต้เข้าไปเพิ่มกลิ่นสมุนไพรให้เข้มข้นขึ้น”
แกงเขียวหวานเนื้อสูตรนี้ กินกับข้าวสวย โรตี หรือ ขนมจีน เข้ากันได้หมด ขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้า ช่วงกรุงเทพฯล็อกดาวน์ที่ผ่านมา เมนูนี้ฮิตติดลมบน ลูกค้านิยมสั่งซื้อเป็นหม้อเก็บไว้รับประทาน
“แกงเหลืองแซลมอน พริกแกงเราปั่นเอง พะโล้ไข่เค็ม เป็นเมนูใหม่ที่เราได้ไข่เค็มออร์แกนิคที่รสชาติเค็มน้อย เมื่อนำมาต้มพะโล้จะได้ไข่ที่มีไข่แดงเค็มนิดๆมีความมันเคี้ยวหนึบๆ ส่วนเนื้อผัดยี่หร่าเป็นเมนูที่คุณแม่ทำให้ทานมาตั้งแต่เด็กๆ มีความเผ็ดร้อน”
ส่วนเมนูอาหารฝรั่ง มีครบทั้ง ไก่ ปลา เนื้อ ไฮไลท์ ได้แก่ โทมาฮอว์ค (สเต๊กเนื้อที่มาพร้อมกระดูกขนาดใหญ่) เนื้อเวลลิงตัน (เนื้อสันในห่อด้วยแป้งพาย)
“ เมนูอาหารของพี่จะมีเนื้อค่อนข้างเยอะ เช่น โทมาฮอว์ค เราใช้เนื้อวากิวออสเตรเลีย ขนาดเล็กใหญ่ระบุจำนวนคนให้ได้ ส่วนที่คนสั่งเยอะ คือ เนื้อเวลลิงตัน อาจเป็นเพราะว่าคนทำไม่เยอะ เพราะว่ามันต้องเป๊ะในเรื่องเทคนิคและอุณหภูมิ เมื่ออบออกมาแล้วแป้งพายข้างนอกต้องสวยในขณะที่เนื้อสันข้างในยังเป็นสีแดงมีความจุ๊ยซี่อยู่ อันนี้เป็นเรื่องของประสบการณ์” เจ้าของบ้านกล่าว
“บางครั้งคิดว่าถ้าเปิดสอนทำอาหารก็คงจะเข้าท่าดี เพราะแต่ละคนควรมีเมนูเด็ดเป็นเสน่ห์ประจำตัว เช่น ฉันอบไก่เก่งนะ ฉันทำเนื้อเวลลิงตันเด็ด
พี่คิดว่าอาหารเป็นเรื่องของประสบการณ์ และการวางแผน วันไหนที่เรา panic ใจไม่นิ่ง รู้สึกวิตกกังวล รู้เลยว่ามีหลุด มีพลาด คนอื่นอาจไม่รู้แต่เรารู้ตัวเอง วิธีแก้คือ วันไหนไม่นิ่งเราก็ปิด”
ความสุขอยู่จนตรงนี้
ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก
“พี่ชอบทำอาหาร ชอบวาดรูป เป็นงานที่หลายคนมองว่าเป็นงานอดิเรก แต่ถ้าเรานำงานอดิเรกของเรามาหารายได้ เท่ากับว่าเราได้ทำงานที่เราชอบด้วย
การทำอาหารจึงตอบโจทย์พี่ เพราะอายุเราผ่านการลองถูกลองผิดมาเยอะแล้ว ไม่มีเวลาสำหรับลองทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ ถ้าเราแฮปปี้กับสิ่งที่ทำเราก็มีความสุข ชีวิตมันก็มีสมดุลกันระหว่างงานกับความเป็นส่วนตัว
ลูกค้าที่มาที่นี่ บางคนมาตั้งแต่สิบเอ็ดโมงเช้ากว่าจะกลับก็สี่โมงเย็น นั่งกินอาหารเครื่องดื่มกินขนมเม้าท์มอยกันไป ความสุขบางทีมันก็เกิดขึ้นได้ง่ายๆ” ณมน ส่งท้าย
หมายเหตุ : ณมน โฮมคุกกิ้ง อยู่ที่ชั้น 2 ตึกริมธารา โครงการสลิลธาราคอนโดมิเนียม พระราม 3 ซอย 18/1
โทร.06 2291 5622 ไลน์ @namonhomecooking
"อาหาร" - Google News
July 18, 2020 at 02:21PM
https://ift.tt/30mk3ht
ณมน โฮมคุกกิ้ง อิ่มอร่อยในบรรยากาศส่วนตัว รับวิถี New Normal ...น้อยแต่พอดี - กรุงเทพธุรกิจ
"อาหาร" - Google News
https://ift.tt/3bODzqM
Mesir News Info
Israel News info
Taiwan News Info
Vietnam News and Info
Japan News and Info Update
https://ift.tt/35PjoHG
Bagikan Berita Ini
0 Response to "ณมน โฮมคุกกิ้ง อิ่มอร่อยในบรรยากาศส่วนตัว รับวิถี New Normal ...น้อยแต่พอดี - กรุงเทพธุรกิจ"
Post a Comment