Search

ไปกินไอติมมะพร้าว-เมี่ยงคำ ชมเรือโบราณ ที่ตลาดน้ำวัดบางกระเจ็ด - ไทยรัฐ

hota.prelol.com

ที่ที่ว่า ก็คือ ตลาดน้ำวัดบางกระเจ็ด อ.บางคล้า ฉะเชิงเทรา นี่เองครับ

ขับรถจากกรุงเทพฯ ออกทางมีนบุรี ใช้เวลาแค่ 40 นาที ผมก็มาถึงวัดบางกระเจ็ด วันที่ผมไปนั้น เขามีการจัดประกวดร้องเพลงพอดี เป็นการประกวดร้องเพลงของคนสูงอายุครับ ผู้เข้าแข่งขันทั้งชาย-หญิง ต้องอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป น้อยกว่านี้ ถือว่าไม่ผ่านคุณสมบัติ

เพลงที่คุณลุง คุณป้า นำมาร้องนั้น พอจะคุ้นหูผมอยู่บ้าง แต่ทุกครั้งที่มาฉะเชิงเทรา ผมมักนึกถึงเพลงนี้ครับ

“ฝั่งชายน้ำบางปะกง ยามแสงอาทิตย์อัสดง ใกล้จะค่ำลงแล้วหนา แต่บางปะกงนั้นยังคงสวยงามตา เย็นย่ำสนธยา ยิ่งพาให้เราสุขใจ” ใครจะร้องตามไปก็ได้นะครับ เพราะเพลงนี้ ฟังทีไร ก็ทำให้ผมนึกถึงความงามแห่งอดีตของเมืองลุ่มน้ำบางปะกงแห่งนี้ทุกครั้ง

หลายคนอาจไม่คุ้นหูสำหรับชื่อวัดบางกระเจ็ด เพราะถ้ามาแปดริ้ว แน่นอนที่สุดครับ ต้องไปกราบสักการะหลวงพ่อโสธร แต่จริงๆ แล้ว ที่ฉะเชิงเทรา มีวัดเก่าแก่และของดีๆ อยู่มากมายครับ

อย่างที่วัดบางกระเจ็ดแห่งนี้ เป็นวัดที่สร้างมานานถึง 113 ปีแล้วครับ ชาวบ้านร่วมกันลงแรง ลงทุนทรัพย์ สร้างวัดขึ้นในตำบลของตัวเอง ที่ดินของวัดที่มีขนาดกว้างขวางมากกว่า 18 ไร่ ก็บริจาคโดยชาวบ้านครับ ผมลองค้นประวัติของวัดจากอากู๋ของผม ได้ความว่า ที่ดินวัดบางกระเจ็ด บริจาคโดยก๋งฮี้ และ ย่าจี๊ด จินดารัตน์ ซึ่งปัจจุบันท่านไม่น่าจะมีชีวิตอยู่แล้วละครับ คงมีแต่ลูกหลานของท่านที่สืบสานผลบุญกุศลที่บรรพบุรุษได้ทำไว้ เท่านั้น

ก่อนที่ผมจะพาไปหาของอร่อยทานที่ตลาดน้ำ ขอแวะสักการะ หลวงพ่อขาว ภายในพระอุโบสถ กันก่อนครับ

หลวงพ่อขาว หรือ หลวงพ่อชินวงษ์ วัดบางกระเจ็ด เป็นพระประธานในพระอุโบสถมาตั้งแต่สร้างวัด นับอายุรวมก็ 113 ปีละครับ ทุกๆ ปีจะมีงานถวายดอกไม้ บูชาหลวงพ่อขาว ปีละครั้ง ถือเป็นงานประจำปีของวัด

กราบพระเสร็จเรียบร้อย ก็ได้เวลาเดินสำรวจตลาด ที่แม้จะเรียกว่า ตลาดน้ำ แต่ไม่ได้อยู่ในน้ำครับ อยู่แค่ริมน้ำ ตลาดน้ำที่นี่ เกิดจากความตั้งใจของท่านเจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน คือ พระครูสุพัฒนพิมล ที่เห็นว่า ทำเลของวัดอยู่ในจุดที่สวยงาม ริมแม่น้ำ

มีศาลาไทยประยุกต์ยาวริมน้ำที่ประชาชนร่วมกันบริจาคเพื่อเป็นที่พักผ่อน อากาศก็โล่ง โปร่งสบาย มีลมเย็นๆ ริมแม่น้ำพัดผ่าน น่าจะทำเป็นตลาดให้ชาวบ้านแถวนี้ ซึ่งส่วนใหญ่ทำการเกษตร นำผลิตผลของตัวเองมาขาย ไม่ว่าจะเป็นปลา กุ้ง ผักสด ผักสวนครัว มะม่วง มะพร้าว ที่ชาวบ้านปลูกเอง มาขายให้เกิดรายได้ ส่วนชาวบ้านคนไหนที่มีฝีมือในการทำอาหาร ทำขนม ก็มาขายอาหารในวันเสาร์ - อาทิตย์ จะได้เป็นแหล่งท่องเที่ยวของชุมชน โดยทางวัดไม่ได้คิดค่าที่ หรือค่าเช่าใดๆ เลย เพราะวัดนี้ สร้างและพัฒนาโดยชาวบ้านอยู่แล้ว แต่ถ้าใครจะช่วยค่าน้ำ ค่าไฟวัดบ้าง ก็ตามแต่ศรัทธาครับ

นอกจากจะได้จับจ่ายซื้อของจากชุมชนแล้ว จุดที่เป็นไฮไลต์ของตลาดน้ำวัดบางกระเจ็ดอีกอย่างหนึ่ง คือ การรวบรวมเรือโบราณอายุหลายร้อยปี ที่ชาวบ้านบริจาคมารวมไว้ที่นี่ ดัดแปลงเป็นทั้งตัวร้านขายของและที่นั่งรับประทานอาหาร

ที่ผมเห็นหลักๆ น่าจะมี เรือมาด กับ เรือบด ครับ

เพราะเรือ 2 ประเภทนี้ มีประวัติศาสตร์ผูกพันกับสายน้ำบางปะกงมานานหลายร้อยปี ครับ

เรือมาด เป็นเรือขุดจากซุงไม้ตะเคียน ขนาดต่างๆ เป็นเรือท้องกลม กลางลำกว้างเสริมกงเป็นระยะ ถ้าเรือใหญ่ก็ใช้คนแจวหลายคนหน่อย แต่ถ้าเป็นเรือเล็กๆ ที่ใช้กันสำหรับสัญจรประจำบ้านหรือครอบครัว ส่วนใหญ่จะเป็นเรือสองแจว คือ ใช้คนแจวสองคน หน้าเรือ กับ ท้ายเรือ บางครั้งเหนื่อยหน่อย ก็เปลี่ยนมาเป็นถ่อเรือแทน

ในอดีตชาวบ้านใช้เรือมาด บรรทุกข้าว ผลไม้ หญ้า ไม้ฟืน และสิ่งของต่างๆ ไปขายในตลาด ถ้านำเก๋งเรือมาใส่ด้านบนกันฝนกันแดด ก็เรียกว่าเรือดมาดเก๋ง ถ้าใส่ประทุนเรือ ก็เรียกว่า เรือมาดประทุน

เรือประเภทนี้ เป็นเรือที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ใช้ในการเสด็จประพาสต้นด้วยครับ

ที่วัดบางกระเจ็ด มีเรือมาดโบราณอายุร่วม 150 ปี อยู่ลำหนึ่งครับ เขียนไว้ว่าเป็นเรือมาดตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 แต่ผมเคยเห็นเรือมาดโบราณที่เก่ากว่านี้ อีกลำอยู่ที่พิพิธภัณฑ์เรือโบราณ อยุธยา อายุน่าจะร่วมๆ 180 ปี ครับ เป็นเรือมาดประทุน ที่กวีเอกสุนทรภู่ ท่านใช้ล่องไปสระบุรี ปรากฏในนิราศพระบาท ถ้ามีโอกาสลองไปหาอ่านดูครับ มีตำนานรักท่านสุนทรภู่ที่เกี่ยวกับเรือลำนี้อยู่ด้วย

ส่วนเรือบด เป็นเรือเล็กๆ ครับ นึกถึงภาพพระสงฆ์ท่านพายเรือรับบาตรตามลำน้ำ ท่านใช้เรือบดนี่ละครับ รูปร่างลักษณะของเรือบด เป็นเรือพาย หัวท้ายเรียว มีแผ่นไม้ตัดเป็นรูปโค้งปีกกาปิดส่วนหนึ่งของด้านบนหัวและท้ายเรือ ความพิเศษของเรือบด คือ จะกลับหัวเป็นท้าย ท้ายเป็นหัวเรือ ก็สามารถทำได้หมดครับ

ที่ฉะเชิงเทรานี้ ว่ากันว่า มีเรือบดเกือบจะมากที่สุด ชาวบ้านริมฝั่งบางปะกง จะใช้เรือบดเป็นเรือข้ามฟากฝั่งแม่น้ำ พระสงฆ์ก็ใช้เรือนี้บิณฑบาต เคยมีหนังเรื่องหนึ่ง ที่สร้างขึ้นเพื่อบอกเล่าเรื่องราวของเรือบด ชื่อ “บด ติด บาตร” เป็นเรื่องราวของชายต่อเรือบด เพื่อถวายให้พระสงฆ์ใช้บิณฑบาตตามสายน้ำบางปะกง

เอาละครับ เล่าเรื่องเรือจบแล้ว ผมขอไปตะลอนกินอาหารอร่อยในตลาดน้ำ ที่มีทั้งผัดไทย หอยทอด ก๋วยเตี๋ยวหมูโบราณ ยำขนมจีน ข้าวเกรียบปากหม้อ หมูเส้น หมูทุบ ส้มตำ และเมี่ยงคำหน้าตาน่ากินสุด

อูยย์ อร่อยทุกอย่างเลยครับ ปิดท้ายด้วย ไอศกรีมกะทิสด คอนเฟิร์มครับ สดจริงๆ มันแบบกะทิแท้ๆ แต่ไม่หวานมาก เสิร์ฟในลูกมะพร้าวที่มีเนื้อมะพร้าวให้เคี้ยวมันๆ ด้วย แถมราคาไม่แพง แค่ 40 บาท เรียกว่า สู้กับบิงซู น้ำแข็งไสเกาหลีถ้วยละหลายร้อยได้สบายๆ ครับ

เอาละครับ...วันนี้ พามาเที่ยววัดบางกระเจ็ด ถ้าไปเดินเฉยๆ อาจไม่คิดว่าเรื่องราวจะมากมายขนาดนี้ สัปดาห์หน้า ผมยังอยู่ที่บางคล้า ครับ แต่จะพาคุณผู้อ่านไปเที่ยวที่ไหนต้องติดตามครับ

นายตะลอน

Let's block ads! (Why?)



"กิน" - Google News
July 18, 2020 at 12:10PM
https://ift.tt/3fAS2Jj

ไปกินไอติมมะพร้าว-เมี่ยงคำ ชมเรือโบราณ ที่ตลาดน้ำวัดบางกระเจ็ด - ไทยรัฐ
"กิน" - Google News
https://ift.tt/2YKxNmY
Mesir News Info
Israel News info
Taiwan News Info
Vietnam News and Info
Japan News and Info Update
https://ift.tt/35PjoHG

Bagikan Berita Ini

0 Response to "ไปกินไอติมมะพร้าว-เมี่ยงคำ ชมเรือโบราณ ที่ตลาดน้ำวัดบางกระเจ็ด - ไทยรัฐ"

Post a Comment

Powered by Blogger.