หมอเฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ รองประธานกมธ.สธ.วุฒิสภา เตือน "ลมแอร์" ในร้านอาหาร ภัยเงียบ กระจายเชื้อโควิด-19 เว้นระยะห่างทางสังคม 2 ม. ก็ช่วยไม่ได้ แนะ สวมหน้ากากอนามัย ระหว่างรออาหาร และอย่านั่งเกินครึ่งชั่วโมง
วันที่ 17 พ.ค. นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ รองประธานกรรมาธิการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ Facebook เรื่อง “ลมแห่งความเสี่ยง ลมจากแอร์ : ภัยเงียบที่คิดไม่ถึง” มีเนื้อหาระบุว่า เมื่ออัตราการเพิ่มของผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงอย่างมาก หรือไม่มีการติดเชื้อเพิ่มเลย ประชาชนในประเทศนั้นๆ ก็จะเรียกร้องให้รัฐบาลทำการคลายล็อก เพื่อให้สามารถทำมาหากินได้ (ด้านเศรษฐกิจ) สามารถพักผ่อนหย่อนใจได้ (ด้านสังคม) ซึ่งแม้จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการระบาดใหม่รอบสอง (ด้านสาธารณสุข) แต่ก็มีความจำเป็นที่จะต้องคลายล็อกอย่างเป็นขั้นเป็นตอน โดยเฝ้าระวังการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อรายใหม่อย่างใกล้ชิด เช่นเดียวกับประเทศไทยของเรา ก็มีการคลายล็อกเป็นขั้นเป็นตอน วันนี้เป็นวันแรก ที่เริ่มคลายล็อกในขั้นตอนที่สอง หนึ่งในมาตรการที่ได้รับการผ่อนคลายในขั้นที่สองนั้น คือ การให้ห้างสรรพสินค้าเปิดดำเนินการได้ ในช่วงการคลายล็อกนี้เอง มาตรการสำคัญมากที่จะทำให้โอกาสการเกิดโรคระบาดลดลง คือ การใส่หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่อยู่นอกบ้าน ถึงแม้จะมีระยะห่างทางสังคมมากกว่า 2 ม.แล้วก็ตาม
นพ.เฉลิมชัย ระบุต่อว่า จุดเสี่ยงอันตรายต่อการติดเชื้อสูงสุดของประชาชนในช่วงคลายล็อก ก็คือ ช่วงที่จำเป็นต้องถอดหน้ากากอนามัย โดยหลีกเลี่ยงไม่ได้ คือ “ช่วงทานอาหาร” การทานอาหารต้องมีระยะห่าง 2 เมตร ถ้าทำไม่ได้ก็ต้องมีฉากกั้นระหว่างผู้ทานอาหารด้วยกัน จึงจะพอเบาใจลงได้บ้าง แม้จะอยู่ห่าง 2 เมตรแล้ว ถ้าตำแหน่งที่นั่งทานอาหารไม่ดี อาจทำให้มีโอกาสรับเชื้อไวรัส เราก็ยังคงสามารถติดเชื้อได้ โดยติดจาก “ลมแห่งความเสี่ยง”
ลมนี้ได้แก่ กระแสลมที่พัดออกจากแอร์ จะเป็นผลชัดเจนมากยิ่งขึ้น ถ้าอยู่ในห้องหรือร้านอาหารที่เป็นระบบปิด (ไม่มีหน้าต่าง, หรือปิดหน้าต่าง) แล้วทิศทางของลมพัดผ่านผู้ที่ติดเชื้อตรงมาหาเราตอนที่กำลังรับประทานอาหารอยู่ เราจะรับเชื้อได้โดยง่าย เพราะเราไม่ได้ใส่หน้ากาก และผู้ติดเชื้อต้นทางลมก็ไม่ได้ใส่หน้ากากด้วยเช่นกัน เพราะต่างก็กำลังรับประทานอาหารอยู่ ระยะห่าง 2 เมตร ไม่สามารถป้องกันได้ เพราะลมจากแอร์สามารถพัดฝอยละอองที่มีเชื้อไวรัสให้ปลิวไกลกว่า 2 เมตรได้ ดังกรณีตัวอย่างรายงานการศึกษาร้านอาหารที่เมืองกวางเจา มณฑลกวางตุ้ง (ดังภาพ) เริ่มต้นจากผู้ติดเชื้อต้นเหตุที่ยังไม่แสดงอาการ (A1) มารับประทานอาหารพร้อมกับครอบครัวโดยนั่งโต๊ะ A ณ ร้านอาหารที่ไม่มีหน้าต่างและติดแอร์ ลมแอร์พัดจากโต๊ะใกล้แอร์สุดคือ โต๊ะ C ผ่านไปยังโต๊ะที่สองที่อยู่ติดกันคือโต๊ะ A และผ่านในทิศทางตรงไปยังโต๊ะที่สามถัดไปคือโต๊ะ B แล้วลมแอร์พัดย้อนกลับมาในทิศทางเดิมกลับมายังแอร์เพื่อให้ทำความเย็นอีกครั้งหนึ่ง กระแสลมดังกล่าวจึงพาฝอยละอองของผู้ติดเชื้อ (A1) จากโต๊ะ A->B -> A->C วนเวียนซ้ำไปมาอยู่ประมาณ 1 ชั่วโมง
"ผลก็คือแม้แต่ละโต๊ะจะอยู่ห่างกัน 1-2 เมตร แต่ก็มีผู้ติดเชื้อจากทั้ง 3 โต๊ะ รวมกัน 9 คน ในขณะที่โต๊ะที่เหลืออีก 12 โต๊ะ รวม 73 คน ไม่มีผู้ติดเชื้อเลย แม้จะอยู่ในระยะใกล้เคียงกัน เพราะไม่ได้อยู่ในทิศทางของลมแอร์ตัวเดียวกัน จึงสรุปได้ว่า ลมจากแอร์ที่เป่าโดยตรงจากผู้ติดเชื้อ (แม้ไม่มีอาการ, ไม่ไอ, ไม่จาม) ที่มีเพียงแค่การพูดคุยระหว่างทานอาหาร ก็สามารถพาฝอยละอองที่มีเชื้อไวรัสไปสู่บุคคลอื่นๆ แม้จะมีระยะห่างทางสังคมแล้วก็ตาม จึงสมควรขนานนามว่า “ลมแห่งความเสี่ยง” โดยแท้ ร้านอาหารจึงไม่ควรเปิดลมแอร์ให้แรง และผู้ทานอาหารควรใช้เวลาทานอาหารในร้านให้สั้นที่สุด (ไม่เกิน 30 นาที) และไม่ควรนั่งอยู่ในทิศทางที่ลมแอร์พัดจากโต๊ะอื่นมาสู่โต๊ะที่เรานั่ง ตลอดจนควรใส่หน้ากากตลอดเวลาที่รออาหารหรือรอจ่ายเงิน ถอดออกเฉพาะช่วงทานอาหารเท่านั้นเพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อให้เหลือน้อยที่สุด" นพ.เฉลิมชัย ระบุเตือน
อ่านเพิ่มเติม...
"อาหาร" - Google News
May 17, 2020 at 12:45PM
https://ift.tt/2TdWGns
เตือน "ลมแอร์" ในร้านอาหาร ภัยเงียบ กระจายโควิด-19 เว้น 2 ม. ก็ไม่ช่วย - ไทยรัฐ
"อาหาร" - Google News
https://ift.tt/3bODzqM
Mesir News Info
Israel News info
Taiwan News Info
Vietnam News and Info
Japan News and Info Update
https://ift.tt/35PjoHG
Bagikan Berita Ini
0 Response to "เตือน "ลมแอร์" ในร้านอาหาร ภัยเงียบ กระจายโควิด-19 เว้น 2 ม. ก็ไม่ช่วย - ไทยรัฐ"
Post a Comment