Search

คอลัมน์โลกธุรกิจ - NEW NORMAL ธุรกิจจัดส่งอาหาร 3-4แสนคนกำลังจะไร้อาชีพ - หนังสือพิมพ์แนวหน้า

hota.prelol.com

nn การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019หรือ โควิด-19 ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกับชีวิตมากมายหลายมิติ แม้จะว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงในแง่ลบเสียส่วนใหญ่ แต่ยังมีส่วนดีอยู่บ้างในบางมุมเช่น ทำให้คนกลับมาใส่ใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น...ทำให้บางธุรกิจเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด เช่น ธุรกิจบริการส่งสินค้าหรืออาหาร และยังเป็นแหล่งรองรับคนที่ต้องตกงานจากพิษของโควิด-19ได้มีอาชีพเพื่อหาเลี้ยงครอบครัวด้วยและบางครอบครัวมีแหล่งรายได้เดียวจากอาชีพนี้ด้วย นอกจากนี้ทุกคนอยู่ในอาชีพนี้ได้ไม่ว่าจะเพศไหนไม่มีข้อจำกัดเรื่องการศึกษาระดับใด อายุเท่าใดทำอาชีพนี้ได้ ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนประชากรที่อยู่ในอาชีพนี้ถึง 3-4 แสนคน และในอนาคตก็กำลังจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามอัตราการว่างงานที่เพิ่มขึ้นอีกหลายล้านคน จากพิษของโควิด-19

ประเด็นที่ “หมุนตามทุน” เขียนเรื่องนี้ในวันนี้ก็เพราะว่า คนหลายแสนคนที่อยู่ในอาชีพนี้กำลังจะเดือดร้อน บางคนอาจจะหลุดออกจากอาชีพนี้ด้วยซ้ำ...เนื่องจากทางราชการกำลังจะออกกฎหมายใหม่มาแบบผิดที่ผิดทาง....เรื่องของเรื่องก็คือ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เตรียมจะออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง หลักเกณฑ์ มาตรการควบคุมการประกอบกิจการให้บริการจัดส่งอาหารอาศัยอำนาจ ตามมาตรา 31 แห่ง พ.ร.บ.สาธารณสุข พ.ศ. 2535 ให้หมวดสถานประกอบการกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ


ร่างประกาศกระทรวงที่กรมอนามัยที่กำลังเร่งที่จะออกมาเร็วๆนี้นั้น มีจุดที่น่าสังเกต น่าสงสัยหลายเรื่อง ซึ่ง “หมุนตามทุน” ขอเริ่มจากประเด็น ข้อกำหนดให้ผู้ประกอบกิจการให้บริการจัดส่งอาหาร และผู้จัดส่งอาหาร ต้องดำเนินการ ซึ่งก็มี 6 หมวดหลัก และแบ่งเป็นข้อปฏิบัติย่อยรวมกันอีก 28 ข้อ...เช่น 1.ผู้จัดส่งอาหารจะต้องเลือกอาหารที่มาจากร้านที่ได้ขึ้นทะเบียนได้รับการรับรองจากหน่วยงานราชการ เจ้าพนักงานท้องถิ่น หรือจากร้านอาหารที่สามารถระบุแหล่งที่มาขอวัตถุดิบได้...คำถามที่เกิดขึ้นคือ แสดงว่าต่อไปนี้ร้านอาหารตามสั่ง ร้านข้าวแกงทั่วๆ ไป หรือผู้ที่มีอาชีพทำน้ำพริกใส่กระปุก ทำอาหาร ขายในออนไลน์ ก็ใช้บริการจาก แกร็บ ฟู้ด...ฟู้ด แพนด้า... ไลน์แมน... เกจโกฯลฯ ไม่ได้อีกแล้วใช่ไหม ???? อาชีพสุดท้ายที่พอจะเหลือไว้เลี้ยงชีพของคนเหล่านี้ก็ต้องจบด้วยใช่หรือไม่ ???

2.ผู้ให้บริการจัดส่งอาหารจะต้องเลือกให้บริการแต่แหล่งอาหารที่ใช้บรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมกับอาหารถูกสุขลักษณะ ป้องกันการปนเปื้อน...คำถามในประเด็นนี้ ผู้มีหน้าที่ควบคุมสุขอนามัยของสถานที่ผลิตอาหาร ควรจะเป็นหน้าที่ของกรมอนามัยมิใช่หรือ ทำไมจึงโยนภาระมาให้ผู้จัดส่งอาหาร แล้วผู้จัดส่งอาหารมีอำนาจตามกฎหมายใด ที่จะไปบังคับร้านอาหารได้ ???

3.กำหนดให้ผู้ให้บริการจัดส่งออกอาหาร ต้องมีระบบคัดกรองผู้ส่งอาหาร ตรวจสอบประวัติตรวจสุขภาพอย่างละเอียดว่าไม่เป็นโรคติดต่อร้ายแรง ไม่เป็นพาหะนำโรค คำถามในข้อนี้คือผู้จัดส่งอาหาร ที่มีอยู่ 3-4 แสนคน มีความพร้อมสักกี่คนที่สามารถรองรับค่าใช้จ่ายในการตรวจโรค ตรวจร่างกาย ให้ครอบคลุมคำว่าโรคร้ายแรงทุกโรคได้...เอาเข้าจริงก็ไม่มีผู้จัดส่งคนไหนแบกรับค่าใช้จ่ายตรงนี้ได้เลย ซึ่งก็รู้การอยู่ว่าบริการทางการแพทย์ในลักษณะนี้ ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 1-2 หมื่นบาท

4.กำหนดให้ผู้จัดส่งอาหารต้อง ตรวจไข้ทุกวัน มีการตรวจเล็บ ตรวจผม ผิวหนังบริเวณมือและนิ้ว ทุกวัน เครื่องแต่งกายต้องสะอาด เป็นระเบียบ และน่าเชื่อถือ....คำถามในข้อนี้คือใครจะเป็นคนตรวจ หลักฐานการตรวจใครรับรอง ในประกาศฯก็ไม่ได้ระบุว่า กรมอนามัย จะเป็นผู้ตั้งจุดตรวจสัก 2-3 พันจุด เพื่อดำเนินการให้ครอบคลุมผู้จัดส่งอาหาร ทั้ง 3-4 แสนคน...ไม่เข้าใจว่าว่าเขียนมาทำไมในเมื่อในทางปฏิบัติเป็นไม่ได้

5.กำหนดให้ผู้จัดส่งอาหารต้องผ่านการอบรมหลักสูตรสุขาภิบาลอาหารสำหรับผู้สัมผัสอาหารจากหน่วยงานจัดการอบรมที่กำหนด....คำถามคือ กรมอนามัยตั้งใจจะบังคับใช้กฎหมายภายในอีก 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า ผู้จัดส่งอาหารมีอยู่ 3-4 แสนคน กรมอนามัยดำเนินการได้ทันหรือ????

6.กำหนดให้ผู้จัดส่งอาหารจะต้องตรวจสอบคุณภาพอาหารทันทีหลังได้รับจากร้านอาหาร เช่น ความสะอาด สภาพอาหารบรรจุอยู่ในภาชนะที่มีสภาพดี ไม่ชำรุด ฉลากอาหาร ฯลฯ....คำถามคือหน้าที่นี้ควรเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่กรมอนามัยมิใช่หรือ ทำไมโยนภาระไปให้ผู้จัดส่งอาหารไปได้

7.กำหนดให้ผู้จัดส่งอาหารต้องมีประจำตัวส่วนบุคคลสำหรับผู้ให้บริการ มีใบอนุญาตขับขี่ และมีประกันภัยที่ถูกต้องตามกฎหมายพร้อมให้ตรวจสอบได้ตลอดเวลาในการปฏิบัติหน้าที่....คำถามคือเรื่องนี้มันเกี่ยวกับคุณภาพอาหารที่จัดส่งตรงไหน...หรือรถที่ประกันขาดจะทำให้อาหารบูดเน่า หรือว่าใบขับขี่หมดอายุ จะเป็นต้นเหตุให้อาหารเกิดการปนเปื้อน

หมุนตามทุน...ยกตัวอย่างบางประเด็นที่น่าจะทำให้เกิดปัญหามานำเสนอไว้ตรงนี้เท่านี้ก่อน...แต่ต้องเข้าใจตรงกันว่า หมุนตามทุน...เห็นด้วยกับการที่ให้ความใส่ใจสุขอนามัย โดยเฉพาะในช่วงการระบาดของโควิด-19 แต่เรื่องนี้ที่กรมอนามัยกำลังจะทำ มันทำให้เกิดคำถาม เกิดข้อสงสัยกลับไปยังกรมอนามัยมากมายหลายเรื่อง เช่น เรื่องที่ส่งผลกระทบต่อคนเกือบครึ่งล้านคน ทำไมใช้ช่องทางกฎหมายเพื่อหลีกเลี่ยงการทำประชาพิจารณ์ เพราะต้องการจะเร่งสร้างผลงานให้ตัวเอง โดยไม่รับฟังความเห็นจากทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง?...ทำไมโยนภาระหน้าที่ของตัวเองที่ต้องทำตามกฎหมายให้ไปเป็นภาระของผู้อื่น?...ทำไมเลือกออกข้อบังคับทางกฎหมายที่อาจจะไม่สามารถปฏิบัติได้จริง แทนที่จะใช้แนวทางการร่วมมือกับผู้บริการ ที่มีข้อมูล มีระบบปฏิบัติการ(AI) ที่นำมาร่วมกันบริหารจัดการได้ดีกว่าเห็นผลทางปฏิบัติได้มากกว่าเหตุใดไม่เลือกแนวทางนี้?...คำถามสำคัญถ้าคน 3-4 แสนคน ต้องไร้อาชีพ และคนตกงานอีกหลายล้านคนที่ต้องเข้ามาพึ่งพาอาชีพนี้ถูกสกัดไว้ด้วยข้อจำกัดของกฎหมายนี้ รัฐบาลจะมีกำลังพอจ่ายเงินเยียวยาให้พวกเขาได้หรือไม่? หลายล้านครอบครัวจะอยู่อย่างไรเมื่อหนทางหารายได้ที่เหลืออยู่เพียงช่องทางเดียวถูกปิดไปเสียแล้ว ??

กระบองเพชร

Let's block ads! (Why?)



"อาหาร" - Google News
May 20, 2020 at 06:00AM
https://ift.tt/3g7uPPJ

คอลัมน์โลกธุรกิจ - NEW NORMAL ธุรกิจจัดส่งอาหาร 3-4แสนคนกำลังจะไร้อาชีพ - หนังสือพิมพ์แนวหน้า
"อาหาร" - Google News
https://ift.tt/3bODzqM
Mesir News Info
Israel News info
Taiwan News Info
Vietnam News and Info
Japan News and Info Update
https://ift.tt/35PjoHG

Bagikan Berita Ini

0 Response to "คอลัมน์โลกธุรกิจ - NEW NORMAL ธุรกิจจัดส่งอาหาร 3-4แสนคนกำลังจะไร้อาชีพ - หนังสือพิมพ์แนวหน้า"

Post a Comment

Powered by Blogger.