ศุกร์ 25 กันยายน 2563 ที่ผ่านมา ผมมีโอกาสไปที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพค เมืองทองธานี จ.นนทบุรี เพื่อดูงาน THAIFEX ANUGA ASIA 2020 ซึ่งเป็นการจัดแสดงสินค้าอาหารระดับโลก จัดขึ้นช่วง 22-26 กันยายน 2563 โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ หอการค้าไทย และโคโลญเมสเซ่
งานแสดงสินค้าอาหารระดับโลกครั้งนี้ จัดออกเป็น 11 กลุ่มใหญ่ คือ กาแฟและชา เครื่องดื่ม อาหารสำเร็จรูป ธุรกิจบริการด้านอาหาร เทคโนโลยีด้านอาหาร อาหารแช่แข็ง ผักและผลไม้ เนื้อสัตว์ ข้าวและธัญพืช ขนมและของขบเคี้ยว และอาหารทะเล นอกจากผู้ประกอบการไทยแล้ว เรายังเห็นบูธของอิตาลี เกาหลีใต้ บราซิล อินโดนีเซีย โปแลนด์ ฯลฯ มาแสดงสินค้าอาหารของตัวเองกันอย่างคับคั่ง
ภายในงานเราจะเห็นเทรนด์อาหารโลกที่เปลี่ยนเร็วเปลี่ยนไวจนเราคาดไม่ถึง ซึ่งส่วนใหญ่มุ่งไปทางอาหารสุขภาพแทบทั้งสิ้น ผมตระเวนบูธผู้ประกอบการด้านอาหารทั้งส่วนของวัตถุดิบ เครื่องเทศ ซอสปรุงรส ทั้งของสด ของแห้ง ไปจนถึงอาหารสำเร็จรูป สังเกตได้ว่า ผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมรับประทานที่ออกมาใหม่ๆ ตอนนี้มักจะมีคำว่า มีปริมาณน้ำตาลน้อย มีใยอาหารและมีโปรตีนในปริมาณที่เพียงพอ ไขมันอิ่มตัวต่ำ ฯลฯ
เทรนด์หรือแนวโน้มของอาหารโลกคือการนำเสนอเสน่ห์ของท้องถิ่นผ่านอาหาร เริ่มตั้งแต่แหล่งวัตถุดิบ ที่ต้องมีเอกลักษณ์เฉพาะ อย่างลูกกระบก ที่แถวบ้านผมสมัยก่อนก็นำมาคั่วๆ แล้วก็ทานกันได้เลย แต่ตอนนี้มีนักวิจัยอาหารรุ่นใหม่ นำลูกกระบกมาแปรรูปให้เป็นขนมทานเล่น รสชาติดี กรุบกรอบ ไม่หวานมาก จุดขายคือการใส่เรื่องเล่าความเป็นวัตถุดิบจากท้องถิ่นเข้าไป สามารถทำให้ขนมชิ้นเล็กๆ เพิ่มมูลค่าขึ้นได้จากเรื่องเล่านี้
เรื่องเสน่ห์ของอาหารท้องถิ่นเป็นเรื่องที่ไประดับสากลแล้วนะครับ เพราะผู้ประกอบการจำนวนมากที่ผมแวะเยี่ยมชม บางครั้งอาจจะไม่เคยได้ยินชื่อสินค้าในเมืองไทยเลย แต่กลับไปโด่งดังในต่างประเทศ นั่นเพราะเอกลักษณ์ของอาหารท้องถิ่น ซึ่งลูกค้าต่างชาติมองว่ามีความแปลกใหม่และมีอัตลักษณ์เฉพาะทำให้แตกต่างและขายได้ ไม่ว่าจะเป็นน้ำตาลโตนด กระเทียมดำ มะขามแดง ฯลฯ
ผลิตภัณฑ์ที่ผมมองว่ามีอนาคตอย่างหนึ่งก็คือ อาหารและเครื่องดื่มเฉพาะกลุ่มหรือเฉพาะบุคคล บูธหนึ่งที่ผมชอบคือ อาหารและเครื่องดื่มสำหรับมารดาที่ให้นมบุตร และอาหารสำหรับเด็กเล็ก อย่างชุดแกงเลียงหรือชุดแกงหัวปลีออร์แกนิกเพื่อบำรุงน้ำนมชุดน้ำซุปปลอดภัยสำหรับปรุงอาหารเด็กเล็ก ฯลฯ นอกจากอาหาร และเครื่องดื่มสำหรับแม่และเด็กแล้ว อาหารและเครื่องดื่มของผู้สูงอายุก็สำคัญ เป็นหนึ่งในเทรนด์อาหารโลกที่ต้องจับตาเพราะเป็นตลาดที่ใหญ่มากในอนาคต
ท่านที่ยังทานโปรตีนจากสัตว์ ก็มีทางเลือกคือโปรตีนจากแมลง เท่าที่สอบถามก็ทราบว่า แมลงเป็นอาหารโปรตีนสูงที่สามารถบริโภคแทนเนื้อสัตว์ได้ ผู้ประกอบการอรรถาธิบายให้ฟังว่า ผงแป้งที่ทำจากแมลง 100 กรัม จะให้โปรตีนสูงถึงร้อยละ 50 แต่โปรตีนจากสัตว์อื่นจะให้อยู่ที่ร้อยละ 30 เท่านั้น เรื่องโปรตีนจากแมลงนี่ก็ถูกใจผู้ที่รักษ์โลกละครับ เพราะการผลิตโปรตีนจากแมลงใช้วัตถุดิบและสร้างมลภาวะให้โลกน้อยกว่าโปรตีนจากการทำปศุสัตว์มาก ที่น่าสนใจคือ ตลาดแมลงที่คนกินได้ทั่วโลกเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดย พ.ศ.2562 มีมูลค่าตลาดมากถึง 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 1.28 หมื่นล้านบาท
แต่ที่สุดของที่สุดที่ล้ำนำเทรนด์อาหารโลกในอนาคตคือ โปรตีนแทนเนื้อสัตว์และโปรตีนสายพันธุ์ใหม่ ผู้คนในครอบครัวของผมไม่ทานเนื้อสัตว์มาหลายปีแล้ว เนื้อไร้เนื้อสัตว์หรือ Plant based meat จึงตอบโจทย์การบริโภคที่ดีมาก เพราะได้ทั้งคุณค่าทางอาหาร งดการเบียดเบียนชีวิตสัตว์ และยังนำมาปรุงเป็นเมนูต่างๆได้อย่างอร่อยไม่แพ้กัน
เรื่องของอาหารยังมีอีกเยอะครับ เท่าที่ตระเวนไปตามเมือง ต่างๆทั่วโลก ผมได้แต่ตะโกนก้องร้องบอกผู้ประกอบการ เพราะถ้าปรับตัวไม่ทันและไร้นวัตกรรม ธุรกิจของท่านก็ยากที่จะเติบโตในสายอาหารนี้ได้อย่างยั่งยืน.
นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com
อ่านเพิ่มเติม...
"อาหาร" - Google News
September 28, 2020 at 05:01AM
https://ift.tt/3kWVOz3
อย่าตกเทรนด์อาหารโลก - ไทยรัฐ
"อาหาร" - Google News
https://ift.tt/3bODzqM
Mesir News Info
Israel News info
Taiwan News Info
Vietnam News and Info
Japan News and Info Update
https://ift.tt/35PjoHG
Bagikan Berita Ini
0 Response to "อย่าตกเทรนด์อาหารโลก - ไทยรัฐ"
Post a Comment